วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

บันทึกเหตุการณ์ “ปลา” เหยื่อความกลัว ๑๑๒

บันทึกเหตุหารณ์ การ์ดนปช.ล็อคตัวนักข่าวอิสระแจกใบปลิวมาตรา 112 ส่งตำรวจสน.สำราญราษฎร์


เมื่อวานนี้(12 มีนาคม 2554) การชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น คือมีชายฉกรรจำนวน 6-7คน ในเครื่องแบบ”การ์ดนปช.” ล็อคตัวคุณปลา(FB แด่เพื่อน ผู้เดือดร้อน)ซึ่งเป็นนักข่าวอิสระ ทำงานอยู่หลังเวทีนปช.และทำงานช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องเสื้อแดงที่ได้รับความเดือดร้อนมาโดยตลอด ได้ทำเอกสารใบปลิวมาแจกให้ผู้ชุมนุม–>ซึ่งภายหลังอ.สาวตรี สุขศรี(อ.คณะนิติศาสตร์ มธ.)ได้ช่วยยืนยันแล้วว่าเอกสารไม่ขัดต่อตัวบทกฎหมายใดๆทั้งสิ้น<– แต่กลับถูกการ์ดของนปช.เอง ล็อคตัวไปส่งตำรวจสน.สำราญราษฎร์… เป็นที่น่าเศร้าสลดใจของพี่น้องเสื้อแดงที่ได้รับทราบข่าวนี้

เหตุการณ์นี้ คงปฎิเสธไม่ได้เลยว่า”ชนวนเหตุ” เริ่มจากการประกาศท่าทีในการแถลงการณ์ของคุณวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ ว่า”สายรายงานว่าจะมีคนมาถือป้ายหรือแจกเอกสารหมิ่นเหม่ในที่ชุมนุม หากเจอตัวให้ช่วยกันล็อคจับส่งตำรวจได้เลย” ซึ่งผมมองว่าเป็นท่าทีที่”ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในเชิงวิธีการ”ของแกนนำที่แสดงท่าทีแบบนี้…
ไม่ว่าคุณไปรับทราบข่าวจากที่ไหนมา สายข่าวไหนมา การ์ดและแกนนำนปช.”ไม่มีสิทธิ์จะไปตัดสินใครว่าผิดหรือไม่ผิด”หากนิยามคำว่า”หมิ่นเหม่”ที่คุณกล่าวมา มันไม่มีความชัดเจนในตัวเอง ไม่มีบรรทัดฐานที่แน่นอนในการตีความ

สิ่งที่อยากถามคือคำว่า”หมิ่นเหม่”ของพวกคุณ หมายถึงอะไร ความหมายเดียวกับ”หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ”หรือไม่ แล้วใครเป็นผู้ตีความคำว่าหมิ่นเหม่นั้น “แกนนำ” “หัวหน้าการ์ด” หรือ”การ์ดระดับปฎิบัติการ” หรือหน้าที่นี้เป็นของตำรวจและนักวิชาการด้านกฎหมายโดยตรง ..ความชัดเจนในอุดมการณ์และขั้นตอนการบริหารจัดการองค์กรคุณมีพร้อมพอหรือยังที่จะไปทำหน้าที่”ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าพนักงานมาเอาผิดมวลชนของตนเอง”

อนึ่งผมมีคำถามว่า”ป้ายรณรงค์ยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯมาตรา112″ นั้น “หมิ่นเหม่” ในความหมายของพวกคุณหรือไม่ ถ้าถือว่าหมิ่นเหม่ มันหมิ่นเหม่อย่างไร และมีความผิดในมาตราใด พวกคุณถึงให้การ์ดตามเต๊นท์ต่างๆปลดป้ายเหล่านี้ลง มวลชนจำนวนมากรอคำอธิบายที่ชัดเจนจากพวกคุณอยู่เพราะไม่พอใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้

เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณบ่ายสองโมงกว่า คุณปลาได้เดินแจกเอกสารที่ทำมาแถวบริเวณแยกคอกวัว มีชายฉกรรกลุ่มหนึ่งประมาณ 6-7 คนในชุด”การ์ดนปช.”ได้ล็อคตัวคุณปลา ยึดเอกสาร ด่าทอ และใช้อำนาจเข้าตรวจคนกระเป๋า …โดยมิได้ดูเนื้อหาของเอกสารเลยแม้แต่น้อย!!! จากนั้นได้ทำการล็อคตัวคุณปลามาที่หลังเวทีใหญ่ เข้ามาหาหัวหน้าการ์ดชื่อพี่อาคม ซึ่งรู้จักและสนิทกับคุณปลามาก่อนแล้วเพราะคุณปลาทำงานข่าวอยู่หลังเวทีมาโดยตลอด คุณปลาได้นำเอกสารให้คุณอาคมตรวจสอบในเบื้องต้น ไม่พบข้อความหมิ่นเหม่ใดๆ ก็อนุญาติให้เผยแพร่ต่อได้ จากนั้นพี่อาคมก็กลับเข้าไปทำหน้าที่ต่อด้านหลังเวที

แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นคือการ์ดนปช.6-7คนนั้นก็ได้ช่วยกันล็อคตัวคุณปลาไปส่งที่เต๊นท์ตำรวจสน.สำราญราษฎร์ที่ตั้งอยู่ด้านหลังร้านอาหารเมธาวลัยศรแดง พร้อมทั้งปึ๊งเอกสารทั้งหมด ในขณะนั้นเหล่าสื่อมวลชนที่เห็นเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของการ์ดชุดนั้นก็ได้เข้าไปติดตามสถาณการณ์และตามข่าวที่เกิดขึ้น ไปเผยแพร่ต่อสาธารณะว่า การ์ดนปช.ล็อคตัวผู้ชุมนุมแจกใบปลิวหมิ่นเหม่ส่งตำรวจ…

ซึ่งในขณะนั้นป้าๆที่เป็นมวลชนที่รู้จักคุณปลาก็ตามไปช่วยห้ามปรามการ์ดเหล่านั้นและมีแม้มีการ์ดจากหลังเวทีคนหนึ่งเดินตามมายืนยันตัวให้คุณปลาว่ารู้จักและเคยเห็นหน้ามาตลอดรวมทั้งคุณปลารู้จักพี่อาคม แต่ชายฉกรร 6-7 คนนั้นก็ไม่หยุดหย่อน รวมทั้งกล่าวหาว่าคุณปลาแอบอ้างมาป่วน จนคุณปลาต้องถูกควบคุมตัวไปที่สน.สำราญราษฎร์ และก็ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวให้สื่อและฝ่ายตรงข้ามรวมทั้งภาครัฐฯนำไปโจมตีให้ผู้ชุมนุมเสื้อแดงเสียหาย …ถามว่างานนี้เสื้อแดงเสียหายเพราะอะไร….?

ตัวผมเมื่อวานนี้หลังจากตอนเย็นได้ช่วยพี่ๆเดินแจกเอกสาร”ข้อเสนอ 8 ข้อ เพื่อการปฎิรูปสถาบันกษัตริย์” แต่โชคยังดีที่ไม่ถูก”การ์ดบ้าอำนาจ”กลุ่มนั้นมาพบเจอหรือล็อคตัวไปส่งตำรวจด้วยข้อกล่าวหา”หมิ่นเหม่”บ้าบออะไรก็ตามแต่ แต่ถ้าการชุมนุมครั้งหน้ายังมี”การ์ดนปช.ที่มีพฤติกรรมบ้าอำนาจหรือรับคำสั่งใครก็ตามแต่”มาทำตัวแบบนี้กับมวลชน ผมฟันธงได้เลยว่านปช.อาจจะ “พังไม่เป็นท่า” อย่างไม่ต้องสงสัย

เวลาประมาณหกโมงครึ่ง ตัวผม พี่สหายฟรีแมน และพี่วิน สหายเสื้อแดง นั่งรอขึ้นปราศัยอยู่หลังเวทีแดงสยาม ได้รับแจ้งข่าวเรื่องคุณปลาถูกการ์ดจับจากพี่เก๋ไก๋ กลุ่มพี่น้องผองเพื่อน ซึ่งได้แจ้งมาว่า พี่ณี และลุงธรรม แจ้งข่าวมาเรื่องคุณปลาถูกจับอยู่สน.สำราญราษฎร์ พวกผมก็รีบเดินไปหาพี่ๆนักกิจกรรมที่แจกเอกสาร ข้อเสนอ 8 ข้อของอ.สมศักดิ์ เจียมฯ อยู่หน้าอนุสรณ์สถาน 14ตุลาฯ และได้แจ้งให้ช่วยๆกระจายข่าวกันไป หาคนไปช่วยคุณปลากันก่อน

จากนั้นได้โทรติดต่อทนายอานนท์ นำภา ซึ่งกำลังเดินทางมาที่ชุมนุมให้รับทราบเรื่องและเดินทางมาที่สน.และช่วยกระจายข่าวให้เครือข่าย จากนั้นผมสามคนก็เดินทางไปที่สน.สำราญราษฎร์โดยทันที
เมื่อเดินทางไปถึง ภาพที่เห็นคือ คุณปลา นั่งอยู่กับป้าๆ พี่ๆน้องๆ มวลชนเสื้อแดงที่ตามมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง หลังจากเพิ่งออกมาจากห้องสอบสวน และตำรวจกำลังตรวจเอกสารกันอยู่ และพยายามจะให้คุณปลาเซ็นต์รับทราบข้อกล่าวหาลงในบันทึกประจำวัน

สิ่งที่ไม่เห็นเลย ณ จุดจุดนั้น คือ..ความช่วยเหลือจากนปช. ต่อมวลชนของเขาเอง ที่ถูก”การ์ดนปช.”กระทำ จนเกิดเรื่องเกิดราวขึ้น
ผมโทรศัพท์ต่อสายตรงผ่านสหายนพ นักรพหน้าเวที ซึ่งอยู่กับแกนนำด้านหลังเวที และสหายนพได้ต่อสายดร.ประแสง มงคลศิริ มาให้คุยโดยตรง ก็ได้คุยกับดร.ประแสง และได้คำชี้แจงว่า เป็นการกระทำของการ์ดส่วนนอก ทางการ์ดภายในที่ดูแลเวทีกลางเพิ่งจะทราบเรื่อง และจะประสานให้ความช่วยเหลือต่อไป จากนั้นก็มีพี่ผู้หญิงติดต่อมาว่าพี่เต้น ณัฐวุฒิ เพิ่งทราบเรื่องและติดต่อเพื่อขอเบอร์สน.สำราญราษฎร์ เพื่อจะติดต่อช่วยคลี่คลายปัญหา ผมจึงได้ขอเบอร์ผู้กำกับสน.สำราญราษฎร์ให้ไป หลังจากนั้นก็ไม่ทราบได้ว่าเขาไปคุยอะไรกันต่อหรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีใครจากเวทีนปช.มาช่วยเหลือคุณปลา

ในเวลาต่อมาหลังจากมาถึงสน.ได้สักพัก ก็มี อ.สาวตรี สุขศรี(อาจารย์นิติศาสตร์ มธ.) ทนายประเวศ ประภานุกูล(ทนายความคุณดา ตอร์ปิโด) ทนายอานนท์ นำภา(ทนายความสำนักกฎหมายราษฎรประสงค์) อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล อ.สุดา รังกุพันธ์ พี่หนิง จิตรา คชเดช พี่โรส(ทนาย112) พี่สาวผมจากองค์กรณ์สิทธิมนุษยชนสากล และเหล่าActivistด้านสิทธิมนุษยชนอีกหลายท่าน ตามเข้ามาสมทบเพื่อร่วมช่วยเหลือคุณปลากันอย่างเต็มที่ ทำให้น่าอุ่นใจได้ระดับหนึ่ง

อาจารย์สาวตรีและทนายประเวศ ได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตามกฎหมายแล้วเจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมตัวคุณปลาไว้ถึง 6 ชั่วโมงได้โดยไม่แจ้งข้อกล่าวหา หากฝ่าฝืนไม่ยอมปล่อยตัวคุณปลา ผู้เสียหายสามารถฟ้องกลับเจ้าพนักงานในมาตรา 157 ได้ และตำรวจไม่มีอำนาจทำสำนวนหรือแจ้งข้อกล่าวหาใดๆกับเอกสารนี้ได้เลย เพราะไม่มีผู้แสดงเจตจำนงฟ้องในมาตราใดๆกับคุณปลา แต่ตำรวจนายหนึ่งยืนยันว่าติดใจเรื่องตรา”ชฎา”บนหัวเอกสาร และต้องเซ็นต์ลงในบันทึกประจำวันสืบสวนเอกสารให้ได้ ถึงจะยอมปล่อยตัว

จากปากคำของคุณปลา ได้ความว่า ตำรวจที่อยู่ที่นั่นส่วนใหญ่ไม่มีคนไหนติดใจเอาความหรือจะทำให้เป็นคดีแต่อย่างใด เพราะเข้าใจว่าเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่ทว่ามีคนหนึ่งถ้าจำไม่ผิดอยู่ในตำแหน่ง”สารวัตร” พยายามจะให้เรื่องนี้เป็นคดีให้ได้ และพยายามจะให้คุณปลาเซ็นต์ชื่อในเอกสารโดยอ้างว่า”เพื่อรายงานเจ้านาย” ซ้ำร้ายยังพยายามจะไปตรวจคนบ้านพักของคุณปลาโดยอ้างคำว่า”นายสั่งมา” สรุปแล้วสืบไปสืบมา เรื่องนี้เป็นคำสั่งตรงจาก อำนวย นิ่มมะโน ให้”เป็นเรื่อง” ให้เป็นคดี” โดยอาศัยช่องว่างที่”การ์ดนปช.” มีอำนาจล็อคตัวมวลชนได้ตามที่คุณวรวุฒิมอบหมายไว้  ซึ่งหลังจากพาคุณปลาเข้าไปตามเรื่องดังกล่าวที่หลังเวทีก็พบว่า 3 ใน 7 ของการ์ดที่ล็อคตัวนั้น ไม่ใช่การ์ดเวที แต่เป็นตำรวจแทรกซึมมา และการ์ดอีก 3-4 คนก็เฮโลตามไป หรืออยากสร้างผลงานให้นายก็ไม่ทราบ จึงมาจับตัวคุณปลาส่งตำรวจ

จากการประเมินโดยส่วนตัว คิดว่าเรื่องนี้”มีใบสั่ง”เพราะพี่อาคมก็ได้รายงานว่าก่อนหน้านี้มีสายข่าวมารายงาน ปล่อยข่าวว่าจะมีคนมาแจกใบปลิวหมิ่นเหม่เพื่อทำลายการชุมนุม ซึ่งข่าวจากไหนมวลชนคงไม่ทราบได้ แต่มันได้กลายมาเป้นนโยบายล็อคตัวมวลชน จากปากแกนนำไปซะแล้ว ซึ่งระบบการจัดการอำนาจของ”การ์ดนปช.”ถือว่า”ยังไม่พร้อม” ที่จะทำหน้าที่ตรงนี้แม้แต่น้อย

การล็อคตัวมวลชนของการ์ดนปช.ด้วยข้อหาหมิ่นเหม่ไม่สามารถทำได้ หากการตีความคำว่า”หมิ่นเหม่”ของนปช.ยังคลุมเครือ ไม่ชัดเจนใดๆเลย จับมวลชนส่งตำรวจ แม้แต่ตำรวจก็ยังไม่รู้จะเอาผิดอะไร แต่การ์ดและแกนนำนปช.เอาอะไรมาตัดสินว่าใครผิดใครหมิ่นเหม่เล่า

การกระทำของ”การ์ดนปช.นอกแถว”ครั้งนี้ มีแต่เกิดผลเสีย ทั้งการทำให้เกิดภาพข่าวที่เป็นลบกับผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ การเสียความรู้สึกของมวลชนหัวก้าวหน้าที่ถูกใครบางคนลุแก่อำนาจมาทำลายล้างกันเอง…

คำถามเดียวที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้คือ แกนนำและการ์ดนปช. จะออกนโยบายให้การ์ดล็อคตัวมวลชนส่งตำรวจมั่วซั่วแบบนี้ เพื่อไปเป็นหูเป็นตา เป็นแขนเป็นขาให้ฝ่ายอำมาตย์ที่จ้องเล่นงานมวลชนหัวก้าวหน้า เพื่ออะไร ? หน้าที่ของคุณคือรับใช้ใคร มวลชน? หรือฝ่ายความมั่นคง? ถามตัวเองดีแล้วหรือยัง ถึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับมวลชนของตนเองได้

การเอาพี่น้องเสื้อแดงส่งตำรวจไม่ว่าเขาจะหมิ่นเหม่จริง หรือไม่จริง ผมถือว่าเป้นการ”ฆ่าพี่น้องกันโดยทางอ้อม” เหมือนคุณทำตัวเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายอำมาตย์มาจ้องเอากม. 112 มาเล่นงานมวลชน หรือว่ามีคนของฝ่ายความมั่นคง หรือของอำนวย นิ่มมะโน มาแฝงตัวใน”การ์ดนปช.”เหล่านั้นหรือไม่ ? มันเป็นเรื่องเลวร้ายมากสำหรับคนทำงาน สำหรับมวลชนหัวก้าวหน้า ผมไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกอย่างเด็ดขาดไม่ว่ากับใครก็ตามที่เป็นมวลชนคนเสื้อแดงที่มาร่วมในการชุมนุมครั้งต่อๆไป

หลังจากเหตุการณ์นี้คุณปลาได้เข้าไปพูดคุยโดยตรงกับพี่เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และได้รับกำลังใจกลับมาว่า”คุณปลาทำดีแล้ว ขอให้ทำต่อไป สู้ต่อไป” ที่เหลือหลังจากนี้คงเป็นการรวบรวมหลักฐาน เอาผิดการ์ดนอกแถว และเตรียมฟ้องกลับสื่อมวลชนที่เสนอข่าวบิดเบือนโดยไม่ได้รายงานข้อเท็จจริงทำให้คุณปลา และผู้ชุมนุมเสื้อแดงเสียหาย

กรณีนี้ผมคงไม่โทษใครเป็นรายบุคคล แต่ผมอยากจะวิพากษ์ว่าระบบที่เป็นอยู่ของการควบคุมโครงสร้างการจัดการในระบบการ์ดนปช.ในปัจจุบัน หรือแนวคิด”แดงจับแดง” ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นนโยบายแบบนี้มันยังใช้ไม่ได้

หากการชุมนุมครั้งหน้าผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่เป็นผม หรือไม่เป็นพี่น้องที่ผมรู้จัก จะถูก”การ์ดนปช.”ล็อคตัวจับส่งตำรวจแบบครั้งนี้อีกเล่า ?

เสียงดังแว่วแผ่วมากับสายลม…
หรือมวลชนต้องทิ้งเรื่อง 112 เพื่อการปรองดอง และเลือกตั้ง ??

ที่มา : สำนักกฎหมายราษฎรประสงค์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น