'มาร์ค'โบ้ยบอกปัญหาของแพงเกิดขึ้นทั่วโลก ส่วนภาวะน้ำมันพืชขาดตลาดกำลังคลี่คลาย สัปดาห์หน้า 'ฝาชมพู' ถึงมือประชาชนทั่วประเทศ วอนอย่ากักตุน แต่นายกค้าปลีกฯ เผยเองชาวบ้านเดือดร้อนซ้ำซ้อนขึ้นไปอีก หลังจากซีอิ๊ว ปลากระป๋อง คอฟฟีเมท ปรับขึ้นไปแล้ว 10 เปอร์เซ็นต์ แถมคาดว่าจะยังมีสินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคาตามมาอีกอื้อ ส่วนชายแดนกองทัพมดเริ่มทำงาน ลอบส่งน้ำตาลขายข้ามประเทศ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ถึงกรณีสินค้าราคาสูงขึ้นว่าปัญหาของแพงถูกร้องเรียนเข้ามามากที่สุด ขอเรียนว่าปัญหานี้กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะราคาสินค้าพื้นฐานต่างๆ ที่ขยับสูงขึ้นตลอดเวลา รัฐบาลก็พยายามจะเข้าไปดูแลอย่างเต็มที่ เช่น น้ำมันปาล์มที่ขาดแคลนมาระยะเวลาหนึ่ง ทางรัฐบาลมีมาตรการนำน้ำมันที่นำเข้ามาผลิตไบโอดีเซลมาผลิตก่อน เพื่อเร่งรัดให้มีของจำหน่ายไปทั่วประเทศ
นายกฯ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ไปตรวจตามห้างสรรพสินค้า เพื่อดูว่าปัญหาน้ำมันพืชเป็นอย่างไร วันที่ไปน้ำมันฝาสีชมพู ที่รัฐบาลเร่งรัดยังไม่ออกวางตลาด แต่บางห้างสถานการณ์ก็เริ่มคลี่คลาย จึงเรียนว่าแนวโน้มของตลาดหรือราคาในตลาดโลก รวมทั้งผลผลิตปาล์มที่จะออกปลายเดือนนี้ มั่นใจว่าปัญหาจะเริ่มคลี่คลาย โดยจะทำให้น้ำมันพืชไปถึงมือประชาชนในราคา 47 บาทต่อขวด ประมาณกลางหรือปลายสัปดาห์น้ำมันฝาสีชมพูจะเริ่มออก สามารถซื้อขายได้ไม่จำกัดปริมาณ ก็ขอความร่วมมือจากประชาชนว่าอย่าตื่นตระหนก หรือซื้อน้ำมันไปเก็บ เพราะจะทำให้เกิดการขาดแคลนได้อีก บางคนซื้อแล้วนำไปขายต่อในราคาสูง ก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการ จึงขอความร่วมมือด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องน้ำตาลก็ขอยืนยันว่าการขาดแคลนนั้นยังไม่มี ผล ผลิตอ้อยปีนี้ไม่ขาดแคลน ปัญหาอยู่ที่ว่าประเทศเราควบคุมราคาน้ำตาล ทำให้ราคาถูกกว่าที่อื่น จึงมีผู้พยายามลักลอบนำออกไปขายในที่ที่มีราคาสูงกว่า ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ กำลังดำเนินการป้องกัน โดยมีการไปตรวจตามโกดัง และจัดสรรโควตาต่างๆ มั่นใจว่าปัญหาน้ำตาลขาดแคลนนั้นไม่มีแน่นอน
นายกฯ กล่าวต่อด้วยว่า ในเดือนเม.ย.นี้ภาคราชการจะมีการปรับขึ้นเงินเดือน ก็พยายามที่จะทำความเข้าใจกับภาคเอกชนด้วยว่าค่าแรงขั้นต่ำอาจจะปรับขึ้นอีก เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ที่จะต่อสู้กับปัญหาของแพงได้
ด้านนายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคตั้งแต่ช่วงต้นปี 2554 จนถึงขณะนี้ว่ากลุ่มสินค้าบางตัวที่ได้มีการปรับราคาขึ้นไป เช่น ซีอิ๊ว คอฟฟีเมท ปลากระป๋อง ปรับขึ้นไป 10 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีสินค้าอีกหลายรายการที่จะขยับราคาตามขึ้นไปอีก ส่วนกะทิ ขณะนี้ยังหาซื้อได้ยังไม่ขาดตลาด แต่ราคาก็ยังคงปรับตัวขึ้นไป
นายสมชาย กล่าวถึงปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนว่า รัฐบาลยังไม่เข้าใจช่องทางการตลาด จนส่งผลทำให้เกิดปัญหาการกระจายสินค้า เพราะการแก้ปัญหารัฐบาลควรมอบให้ผู้ประกอบการกระจายสินค้าจัดการ มากกว่านำมาขายในห้างโมเดิร์นเทรด เพราะผู้ประกอบการจะรู้ดีว่าสามารถกระจายสินค้าได้อย่างไร ถึงจะทำให้ผู้บริโภคทั่วประเทศได้สินค้าอย่างทั่วถึง และยังจะช่วยลดปัญหาการขายน้ำมันปาล์มในราคาที่แพง บางพื้นที่ประชาชนไม่สามารถเดินทางมาซื้อของในตัวเมือง หรือตามห้างได้ ก็ต้องยอมไปซื้อกับยี่ปั๊วหรือซาปั๊วในราคาที่แพง
ด้านนายสุชาติ สินรัตน์ ผอ.สำนักตรวจสอบและปฏิบัติการ กรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับราคาน้ำมันปาล์มแพงจากหลายพื้นที่ โดยเฉพาะฝาสีฟ้าและฝาสีชมพู เช่น ที่จ.นครราชสีมา สระบุรี ฉะเชิงเทรา มีการขายในราคา 50-55 บาทต่อขวด เกินราคาควบคุมที่ 47 บาทต่อขวด ก็มีการติดตามและดำเนินการทางคดีแล้ว ส่วนกรณีน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำตาล ยังมีผู้ร้องเรียนเข้ามาน้อย เชื่อว่าปัญหายังมีไม่มาก
ที่จ.พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำมันพืชที่ขาดตลาดและมีราคาแพง ว่าเหตุยังไม่บรรเทา และจากการตระเวนหาซื้อน้ำมันพืชไปตามร้านและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในจังหวัดยังพบว่าไม่มีน้ำมันพืช วางขาย
นางสมทรง อารัญ แม่บ้าน ต.ห้วยข้าวก่ำ อ.จุน จ.พะเยา กล่าวว่า ตนต้องทำกับข้าวทุกวัน ต้องใช้น้ำมันพืชถึงวันละ 2 ลิตร ทุกวันนี้ใช้น้ำมันถั่วเหลืองตราองุ่น ที่รัฐบาลได้ขอให้ผู้ขาย ขายราคาขวดลิตรละ 47 บาท ก็มีขายเพียงบางร้านเท่านั้น ตนต้องไปซื้อจากห้างโลตัส ที่ อ.จุน ทุกวัน บางวันก็ได้ บางวันก็ไม่ได้ เพราะพนักงานของห้างบอกว่าสามารถรับมาขายได้แค่วันละ 20 ขวดเท่านั้น ชั่วโมงเดียวก็ขายหมดแล้ว คนที่ไม่รู้ก็ไม่สามารถซื้อได้ทัน น้ำมันถั่วเหลืองตราองุ่น ขายราคาขวดลิตรละ 47 บาท แต่ยี่ห้ออื่นเห็นราคาขายขวดละ 96-115 บาท ราคาแพงมาก เกิดมาไม่เคยเจอเลยว่าน้ำมันพืชจะราคาสูงเหมือนครั้งนี้ ส่วนน้ำมันปาล์มฝาสีฟ้า หรือสีชมพู ที่รัฐบาลมีนโยบายผลิตออกมาช่วยเหลือประชาชน ตนได้ไปเที่ยวหาซื้อตามร้านค้าต่างๆ หรือในห้างก็ไม่เห็นจะมีวางขายสักขวด
วันเดียวกัน นายฤทธิไกร อุดมเวศน์ นายด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย นำกำลังเข้าตรวจยึดน้ำตาลทราย 34 กระสอบ น้ำหนัก 1,700 กิโลกรัม หลังจากขับรถตระเวนไป ตามถนนเลียบแม่น้ำสาย แม่น้ำกั้นพรมแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย และป้องกันการลักลอบนำน้ำตาลทรายและน้ำมันพืชส่งออกประเทศเพื่อนบ้านชายแดน ทางจุดผ่อนปรนและผ่านทางแม่น้ำสายที่แห้งขอด เมื่อไปถึงจุดผ่อนปรนบ้านเกาะทราย ต.แม่สาย พบชายฉกรรจ์ 3 คน กำลังลำเลียงกระสอบต้องสงสัยจากฝั่งไทย ลงเรือพายที่จอดอยู่ในแม่น้ำสาย เมื่อจะขอตรวจสอบชายทั้งหมดได้กระโดดลงเรือที่มีกระสอบอยู่ประมาณ 10 กระสอบ หลบหนีข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็ว จึงได้ตรวจสอบกระสอบที่ถูกทิ้งไว้บนฝั่งไทย พบว่าเป็นน้ำตาลทราย ซึ่งมีราคาซื้อขายที่ชายแดนกิโลกรัมละ 35 บาท จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น