วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

มาร์คยันไทยถกเขมรไม่รอมรดกโลก

นายกฯชี้หารือทวิภาคีเดินหน้าได้เลยไม่ต้องรอ กก.มรดกโลก ยันความสัมพันธ์เริ่มดีขึ้น ยังกั๊กโอนตัว"วีระ"กลับมาเข้าคุกไทย แจงตอนนี้เดินหน้าเฉพาะสุขภาพ - อภัยโทษเหตุสำคัญกว่า 


เมื่อเวลา 9.50 น . วันที่ 10 มี.ค. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา ( เจบีซี ) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา ( จีบีซี ) ว่า ต้องทำคู่ขนานกันไปเพื่อให้แยกแยะปัญหาในภาพใหญ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรกับปัญหาในระดับภาคปฏิบัติในพื้นที่ เพื่อหามาตรการลดความตึงเครียด โดยวันนี้ (10 มี.ค.) นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะมาพบและคงสรุปมาว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะความชัดเจนในเรื่องของการที่อินโดนีเซียจะส่งผู้สังเกตการณ์เข้ามา ทั้งนี้ท่าทีของกัมพูชาดีขึ้นตามลำดับ แต่การประชุมเจบีซียังมีประเด็นปัญหาเรื่องสถานที่ สำหรับประเทศไทยนั้นอยากให้เกิดการประชุมทั้ง 2 รูปแบบ ภายในเดือนมีนาคมนี้ และไทยเองก็พร้อมตลอดเวลา

 นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นที่จะหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในการประชุมเจบีซีนั้นคือการหารือว่าพัฒนาการที่นำมาสู่ความตึงเครียด มีอะไรบ้าง มีอะไรที่มันน่าตกลงกันเพื่อจะไม่ให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งกัน โดยที่ไม่กระทบสิทธิที่ต่างฝ่ายต่างอ้างซึ่งกันและกัน กระบวนการทั้งหมดสามารถเดินไปได้ โดยไม่ต้องรอการประชุมของคณะกรรมการมรดกโลก เพราะถ้าทำได้จริงๆจะช่วยลดภาระของคณะกรรมการมรดกโลกด้วย

สุเทพปรามพธม.ยื่นหนังสือค้านอินโดฯ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายปานเทพ  พัวพงษ์พันธ์ โฆษกแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ( พธม.)  เดินทางไปยื่นหนังสือที่สถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เพื่อคัดค้าน ไม่ให้อินโดนีเซีย เข้ามายุ่งและแทรกแซงเกี่ยวกับปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชา ว่า การที่นายปานเทพ ทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะอินโดนีเซียก็ทำตามมติของอาเซียน และอาเซียนเองก็รับงานมาจากสหประชาชาติ เราควรจะต้องร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดสันติภาพขึ้น  และการที่อินโดนีเซีย มาเป็นผู้สังเกตการณ์ เขาไม่ได้เข่ามาเป็นผู้ต่อรองและไม่ได้มาเป็นผู้เจรจา  เราควรจะยอมรับในส่งที่เขาดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า  ทางอินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเข้าใจประเทศไทยหรือไม่ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ท่านประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เข้าใจและมีความรู้สึกที่ดีต่อประเทศไทยมาโดยตลอด

มาร์คยังกั๊กโอนตัว"วีระ"กลับมาเข้าคุกไทย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ 2 คนไทยที่จำคุกอยู่ในประเทศกัมพูชา ว่า ภายหลังนายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กูล เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ออกมาเปิดประเด็นว่าไทยสามารถขอโอนตัวนักโทษจากกัมพูชาได้ เพราะได้ลงนามความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษา และความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา (สนธิสัญญาโอนตัวนักโทษ) ว่ามีอยู่ 2 ประเด็นคือ 1. กรณีการโอนตัวให้กลับมารับโทษในประเทศ เราได้ทำข้อตกลงไป แต่มันมีหลักเกณฑ์ของมันอยู่ ซึ่งก็จะพิจารณาว่าเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามันมีปัญหาพอสมควรว่าได้รับโทษเท่าไรแล้ว 2. การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งต้องพิจารณาข้อมูล ข้อเท็จจริงทั้งหมด

“ขณะนี้คิดว่าเราต้องเดินไปในเรื่องที่จะดูแลเรื่องสุขภาพของนายวีระ และเรื่องการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ เราต้องติดตาม ” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ควรจะเข้ามาดูแลในเรื่องของสุขภาพของนายวีระหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า องค์กรสากลเขาดูแลส่วนหนึ่ง และคิดว่าเขาจะมีโอกาสที่จะเข้าถึงตัวมากกว่า

เมื่อถามว่า หากมีการโอนตัวนักโทษ นั่นหมายถึงเราไปยอมรับคำพิพากษาอะไรด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่านายวีระ คงไม่ต้องการให้เกิดปัญหากับประเทศ ยืนยันว่าแนวทางตอนนี้คือเรื่องอภัยโทษ กับเรื่องของการดูแลสุขภาพ เป็นแนวทางที่สำคัญที่สุด แนวทางอื่นมันมีปัญหาอย่างอื่นมากกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น