วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ธิดา ถาวรเศรษฐ : “เพียงเรียกร้องให้ยุบสภา”

1 ปีผ่านไป หลังการฆ่าหมู่กลางถนน จาก 10 เมษาถึง 19 พฤษภา 2553 เราจึงได้  “ยุบสภา” ตามที่เรียกร้องไว้
การยุบสภาครั้งนี้ เพื่อจะให้มีการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 แลกกับอะไรบ้างจึงได้มา
  • ชีวิตคนไทย 92 ศพ และหลังจากนั้นอีกทั้งหมดร่วมร้อยศพ คนบาดเจ็บสองพันคน การจับกุมคุมขังโดยมิชอบ หลายร้อยคนอย่างยาวนาน จนบัดนี้ผ่านมา 1 ปี ยังถูกคุมขังอยู่กว่าร้อยคน
  • ข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้ายสำหรับฝ่ายผู้ชุมนุมที่มีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต จับกุมคุมขังโดยไม่มีการสืบสวนสอบสวนคดีอย่างที่กระบวนการยุติธรรมควรทำ มีแต่ข้อกล่าวหาที่ไม่เริ่มต้นพิสูจน์ความจริง แต่ใช้กระบวนการพิจารณามาลงโทษแทนคำพิพากษา ในฝั่งอำนาจรัฐยังไม่มีการสืบสวนสอบสวน ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและไม่มีการรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
  • ความตกต่ำของปัญหาสิทธิมนุษยชนไทย และเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นที่ประจักษ์ชัดในสายตาชาวโลก การปิดเวบไซด์นับหมื่น การใช้อาวุธจริงกระสุนจริงปราบปรามประชาชนโดยไม่ใช้มาตรฐานสากล การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนักหน่วงสำหรับผู้ที่มีความเห็นทางการเมืองที่ต่างจากแนวคิดของคนในระบอบอำมาตยาธิปไตย
  • ศักดิ์ศรีความน่าเชื่อถือของประเทศไทยลดต่ำทั้งในด้านสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของสื่อ
  • ความเสื่อมทรุดในการเชื่อถือและยอมรับกระบวนการยุติธรรม หน่วยงานความมั่นคงและกองทัพที่ถูกตั้งคำถามจากประชาชนไทยและสังคมโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ไทยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พศ.2475 เป็นต้นมา
  • ความเจ็บแค้นร้าวลึกของประเทศไทยที่ถูกกระทำจากอำนาจรัฐอำมาตยาธิปไตย ทั้งการปราบปรามเข่นฆ่า การจับกุมคุมขังไม่เป็นธรรม มีลักษณะหลายมาตรฐานหรือมีความไม่เท่าเทียมกัน ในการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมแต่ละขั้นตอน ทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงของพัฒนาการสังคมที่อาจนำไปสู่การต่อสู้ของประชาชนแบบอนาธิปไตย ไร้การควบคุมขององค์กรจนสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดจลาจลและเกิดการเคลื่อนไหวที่มีความรุนแรง
มันร้ายแรงและดำดิ่งสู่หายนะ แบบนี้แล้ว จึงเพิ่งจะจัดให้มีการยุบสภา ตามคำเรียกร้องของประชาชนที่ผ่านมา 1 ปีแล้ว
แต่แน่นอน นี่เป็นด้านหายนะของสังคมไทย ของประเทศไทย แต่ระบอบอำมาตยาธิปไตยได้อะไรบ้าง หลังรัฐประหาร และหลังการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนจนถึงปัจจุบัน
สิ่งที่ระบอบอำมาตยาธิปไตยได้คือ
  • ได้แย่งยึดปล้นชิงอำนาจรัฐจากประชาชน กลับไปอยู่ในมือของกลุ่มอภิสิทธิชน”จารีตนิยม”
  • ได้รัฐธรรมนูญอันเป็นกฏหมายสูงสุดฉบับอำมาตยาธิปไตยรวมทั้งกฎหมายอื่นๆและการนิรโทษกรรมผู้ทำการรัฐประหาร
  • ได้แย่งยึดอำนาจนิติบัญญัติผ่านการสรรหาวุฒิสมาชิกโดยคณะบุคคลเพียง 7 คน และผ่านพรรคการเมืองให้อยู่ภายใต้การกำกับของระบอบอำมาตย์
  • ได้ความมั่นคงของระบอบอำมาตย์ ผ่านอำนาจตุลาการและกลไกกองทัพ และความมั่นคงภายใน องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญจากคณะรัฐประหาร
  • ได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของเครือข่ายระบอบอำมาตย์
สำหรับสิ่งที่ประชาชนอันเป็นคู่ขัดแย้งกับระบอบอำมาตย์ได้มาก็คือ
  • ประชาชนเข้มแข็งขึ้น มีคนเสื้อแดงและแนวร่วมกว้างขวางมากขึ้น มีทุกชนชั้น ชั้นชน เข้าร่วมการต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค มากขึ้น และร่วมทางเพื่อให้ได้ระบอบการเมืองการปกครองที่เป็นประชาธิปไตยแท้จริงมากขึ้น จึงเป็นการเติบใหญ่ทั่งปริมาณและคุณภาพ
  • บทเรียนในการต่อสู้ของประชาชนที่มีลักษณะยืดเยื้อ และเหตุผลที่ต้องใช้สันติวิธีเป็นหนทางในการต่อสู้
  • เข้าสู่การทดสอบยุทธศาสตร์ 2 ขา 2 แขน 5 เขตยุทธศาสตร์ และการจัดต้งองค์กรเพื่อปรับโครงสร้างการนำของ นปช.แดงทั้งแผ่นดินทีละก้าว
นี่จึงเป็นการปรับปรุงการนำและการจัดตั้งองค์กรที่ถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญยิ่งของฝ่ายประชาชน
สำหรับข้อเสียของระบอบอำมาตย์ที่ได้รับหลังการทำรัฐประหารและปราบปรามประชาชน
  • เกียรติภูมิของสถาบันหลักๆ ทางการเมืองการปกครองเสื่อมทรุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน
  • นำมาสู่การเสื่อมทรุดของระบอบอำมาตยาธิปไตยในทางความชอบธรรมและการครอบงำสังคมไทยมาช้านาน เพราะถูกเปิดเผยในการใช้อำนาจนอกระบบแอบแฝงมาปล้นทำลายแย่งชิงอำนาจประชาชนไป
  • เปิดเผยความสามารถและความซื่อสัตย์ในการบริหารประเทศทั้งด้านประสิทธิภาพ ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ ความโปร่งใส ว่า ความหมายของ “คนดี มีศีลธรรม”คือคนดีของใครกันแน่ “คนดีของแผ่นดิน”ใช่ คนดีของประชาชนหรือไม่
ถ้าเราทบทวนทั้งหมด แน่นอน ฝั่งระบอบอำมาตย์ได้อำนาจรัฐและพยายามรักษาอำนาจรัฐและผลประโยชน์ในมือให้ได้แต่เสียความชอบธรรม และถูกกดดันจากประชาชนไทยและสังคมโลก จนต้องยอมให้ “ยุบสภา”เพราะไม่อาจทนอยู่ต่อไปได้
ฝ่ายประชาชน ถูกปล้นอำนาจ สิทธิ เสรีภาพไป ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน จนถึงขื้นถูกปราบปรามเข่นฆ่าจับกุมคุมขัง นี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ แต่สิ่งที่ได้มาคือ ความชอบธรรมและการเติบโตของขบวนการประชาชน ที่กดดันให้ระบอบอำมาตยาธิปไตยต้องคืนอำนาจให้ประชาชนจนได้ แม้จะเป็นเพียงขั้นต้นย่างก้าวแรกๆก็ตาม ยังมิได้หมายความว่า ถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้ว จะเกิดระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงขึ้นมาได้หลังการเลือกตื้ง
ยังก่อน ยังมีอีกหลายตอน ที่เหล่าเครือข่ายระบอบอำมาตย์ไม่ยอมสูญเสียอำนาจการเมืองการปกครองและผลประโยชน์ง่ายๆ ประชาชน จึงต้องยืนหยัดอุดมการณ์ การเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย และความเป็นธรรมในสังคมไม่ว่าผลเลือกตั้งจะเป็นเช่นไร
เพื่อเป็นการคารวะดวงวิญญาณวีรชนประชาธิปไตย ตั้งแต่อดีตจนถึง 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ให้เขาเสียสละชีวิตโดยไม่คุ้มค่าสำหรับประเทศชาติประชาชนไทย พวกเราที่ยังทำงานได้จึงต้องสืบสานเจตนารมณ์สร้างความเข้มแข็งให้กับขบวนการประชาธิปไตยของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเข้มแข็งของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน จะเป็นส่วนสำคัญในการชี้อนาคตการเมืองไทยว่าจะได้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงหรือไม่
ขอบคุณข้อมูล : ประชาไท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น