วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

"ทักษิณ"เปิดใจสื่อออสซี่ "ยิ่งลักษณ์"ไม่ได้เป็น"หุ่นเชิด"ทางการเมือง

พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวปฏิเสธว่าเขาต้องการขึ้นเป็นผู้นำอีกครั้ง และยืนยันว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของเขา ไม่ได้อยู่ในฐานะ "หุ่นเชิดทางการเมือง"


พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวให้สัมภาษณ์ที่บ้านพักของเขาในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แก่สถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลีย ในรายการ  "Lateline" ซึ่งแพร่ภาพเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เขามั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคมนี้


"ตามโพลของหลายสำนัก ซึ่งรวมถึงรายงานของรัฐบาลรักษาการณ์ เรามั่นใจว่าเราจะเป็นผู้ชนะ"


ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์เอง แทบไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อน ขณะที่คนไทยจำนวนมากรู้สึกว่าการได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเธอนั้น เท่ากับเป็นการยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีบทบาททางการเมืองแม้ว่าจะลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศก็ตาม


พ.ต.ท.ทักษิณได้รับการสนับสนุนจากประชาชนชั้นแรงงานหรือคนที่มีฐานะยากจนจากนโยบายประชานิยมของเขา ขณะที่ประชาชนที่มีฐานะหรือบุคคลชั้นสูง มองว่าเขาทุจริตคอร์รัปชันและเป็นผู้นำแบบอำนาจนิยม แต่ก็ยอมรับว่าเขายังคงมีอิทธิพลอยู่มาก


พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวยอมรับว่าเขาอาจมีอิทธิพลด้านแนวคิดและความคิดอยู่บ้าง ทั้งนี้เนื่องจากเขามีประสบการณ์การทำงานมากกว่าคนอื่นๆ และเขาเองก็อยากให้คนอื่นๆประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงอยากร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี และประสบการณ์ในการเดินทางไปทั่วโลก ทั้งนี้เขาปฏิเสธว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เป็นหุ่นเชิดของเขา แต่กล่าวว่าเธอเป็น"โคลนนิ่ง"ของเขา
"ใช่ เธอเป็นน้องสาวคนเล็กของผม เธอทำงานกับผมมาตั้งแต่แรก ดังนั้นผมจึงสอนเธอ ฝึกเธอ จึงไม่แปลกที่รูปแบบการทำงานของเธอจะคล้ายผม"


เขากล่าวว่า "โคลนนิ่ง" ในความหมายของเขาคือ "การมีวัฒนธรรมเดียวกัน พื้นฐานเดียวกัน ความคิดเดียวกัน ทัศนคติเดียวกัน และคิดเช่นเดียวกัน"


ขณะที่เป็นที่เข้าใจกันว่าสิ่งสำคัญลำดับแรกที่น.ส.ยิ่งลักษณ์จะทำคือการนิรโทษกรรมนักการเมือง แต่พ.ต.ท.ทักษิณปฏิเสธว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการล้างมลทินหรือข้อด่างพร้อยใดๆในอดีตของเขา เพื่อที่จะกลับมาสู่วงการเมืองอีกครั้ง


"การสร้างความปรองดองเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องทำ ไม่ใช่การนิรโทษกรรม การนิรโทษกรรมอาจเป็นส่วนหนึ่งของการปรองดองแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด"


เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ตามกระบวนการปฏิบัติ ตัวเขาถือเป็นส่วนหนึ่งในการนำความเป็นเอกภาพมาสู่ประเทศ จริงอยู่ว่าเขาอาจได้รับผลประโยชน์ส่วนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่กังวลมากนัก เนื่องจากเขาอยู่นอกระบบการเมืองมานานแล้ว


พ.ต.ท.ทักษิณเปิดเผยว่า เขาต้องการกลับประเทศไทยก่อนช่วงสิ้นปีนี้ เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนม์พรรษาครบ 7 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ โดยกล่าวปฏิเสธคำกล่าวที่ว่าจุดมุ่งหมายหลักของเขาคือการกลับมาปกครองประเทศอีกครั้ง


"น้องสาวของผมอยู่ที่นั่น ดังนั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องกลับไปเป็นนายกฯอีก"
อดีตนายกฯ กล่าวและยืนยันว่าเขาต้องการกลับไปสอนหนังสือและเล่นกอล์ฟเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น