วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554

เด็กหญิงหายไป ?

การสำรวจสำมะโนประชากรครั้งที่ 15 นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2415 ของอินเดีย ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ปีที่แล้ว เพิ่งประกาศผลเมื่อวันก่อน ถึงปีนี้ตัวเลขอยู่ที่ 1,210 ล้านคน เพิ่มขึ้น 181 ล้านคนในเวลาแค่ 10 ปี หรือตั้งแต่ปี 2543
   
พลเมืองมากเป็นอันดับ 2 ของโลกเหมือนเดิม รองจากจีนซึ่งมี 1,340 ล้านคน แต่โครงการของสหประชาชาติทำนายว่า จำนวนคนอินเดียจะแซงหน้าจีนภายในปี 2573 หากอัตราการเพิ่มลดของประชากรยังไม่เปลี่ยน
   
ตัวเลขพลเมืองอินเดีย ล่าสุด เท่ากับประมาณ 17.5% ของคนทั้งโลก (จีน 19.4%) เท่ากับประชากรของสหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย บราซิล ปากีสถาน บังกลาเทศ และญี่ปุ่น รวมกัน
   
คนอินเดีย 1,210 ล้านคน แยกเป็นผู้ชาย 623.7 ล้านคน ผู้หญิง 586.5 ล้านคน เท่ากับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 37.2 ล้านคน
   
ที่น่าตกใจคือ สัดส่วนทางเพศของเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ระหว่างเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิง ลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่อินเดียได้รับเอกราชในปี 2490
   
คือมีเด็กผู้หญิงแค่ 914 คน ต่อเด็กผู้ชายทุก ๆ 1,000 คน ตัวเลขลดลงจากเด็กหญิง 927 คนต่อเด็กผู้ชาย 1,000 คนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
   
ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจอินเดียเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง จนถูกจับตามองจากทั่วโลก พอ ๆ กับบราซิลในภูมิภาคลาตินอเมริกา แต่ตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ค่านิยมเก่า ๆ ที่มีอคติต่อการมีลูกผู้หญิง ยังคงฝังลึกในวัฒนธรรมอินเดีย
   
กติกา วาสุเทพ นักสังคมศาสตร์ชื่อดังของมหาวิทยาลัยเดลี บอกว่า จากตัวเลขต้องทำให้ชาวอินเดียคิด 100 ครั้ง ก่อนจะมองตนเอง เป็นพลเมืองของประเทศก้าวหน้า
   
สัดส่วนทางเพศของอินเดีย ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2504 ซึ่งตอนนั้นตัวเลขอยู่ที่เด็กผู้หญิง  976 คน ต่อเด็กผู้ชายทุก ๆ 1,000 คน และตัวเลขล่าสุดแสดงว่า อินเดียล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในการปกป้องเด็กผู้หญิง
   
อัตราเฉลี่ยทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ เด็กผู้หญิง 1,050 คน ต่อเด็กผู้ชาย 1,000 คน
   
ครอบครัวชาวอินเดียส่วนใหญ่ ยังคงยึดติดค่านิยมเก่า การมีลูกผู้หญิงคือภาระหนัก โดยเฉพาะเมื่อยามเติบโตมีคู่ครอง พ่อแม่ฝ่ายหญิงต้องเป็นฝ่ายหาเงินทอง เป็นค่าสินสอดให้ครอบครัวลูกเขย มากน้อยตามแต่ตกลง ถ้าลูกเขยครอบครัวมีหน้ามีตา หรือการศึกษาดีก็มากหน่อย
   
หลายคู่อยู่กินกันจนมีลูกเป็นโขยง และเติบโตกันหมด ครอบครัวฝ่ายเมียยังหาเงินผ่อนค่าสินสอดไม่หมด สามีและญาติรวมหัวกันฆ่าเมียเป็นข่าวให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ
   
ครอบครัวฐานะปานกลางขึ้นไป พอภรรยาตั้งครรภ์ และผลตรวจอัลตราซาวด์พบลูกในท้องเป็นหญิง มีการทำแท้งเป็นจำนวนมาก เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ในอินเดียมีแพร่หลาย และราคาค่าตรวจก็ถูกมาก โดยเฉลี่ยแค่ประมาณ 10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 300 บาทเท่านั้น
   
แต่สำหรับกลุ่มคนฐานะยากจน อัตราการเสียชีวิตของเด็กผู้หญิงในอินเดียหลังคลอดสูงมาก ส่วนใหญ่จะถูกฆาตกรรมอำพรางในรูปแบบต่าง ๆ
   
ผลศึกษาในปี 2549 โดยวารสารการแพทย์แลนเซตของอังกฤษ พบว่า ทารกในครรภ์ที่เป็นเพศหญิงและถูกทำแท้งในอินเดีย สูงถึงปีละ 500,000 ราย
   
ช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียพยายามรณรงค์โครงการต่าง ๆ เพื่อลดอคติต่อเด็กผู้หญิง รวมถึงเสนอเงินสดเพื่อเป็นแรงจูงใจ แต่ปรากฏว่าได้ผลน้อยมาก
   
นายโกปาล กฤษณะ พิลไลย รัฐมนตรีมหาดไทยอินเดีย ยอมรับว่า ความพยายามของรัฐบาลไร้ผล ทางแก้ที่พอจะมองเห็นตอนนี้คือ จำเป็นต้อง “ยกเครื่อง” ทบทวนนโยบายวางแผนครอบครัวใหม่ทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น